ชีวิตผมผ่านความล้มเหลวมามาก ตอนนี้คิดกลับตัว ขอความรู้เป็นวิทยาทานด้วยนะครับ
- อายุ 14 ปี ผมเรียนจบกศน. เทียบเท่าชั้นมัธยม 3 ผมการเรียนดีมาก แต่เห็นแก่ตัว ไม่ทำกิจกรรม เพื่อนน้อย
- อายุ 16 ปี ผมเรียนจบกศน. เทียบเท่าชั้นมัธยม 6 ผลการเรียนตกลงมาก ลดทิฏฐิ เริ่มเล่นกีฬา โดดเรียน มีเพื่อนมากขึ้น เลือกเรียนสายวิทย์คณิต
ตามคำแนะนำของอาจารย์ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกชอบสายภาษามากกว่า
( เป็นโรงเรียนผู้ใหญ่ แต่เป็นโรงเรียนกินนอนและใช้หนังสือเรียนหลักสูตรเดียวกับโรงเรียนสายสามัญทั่วไป โดยเปิดรับเฉพาะเด็กอายุไม่เกิน
15 ปี สอบเข้าเรียนชั้นม.1 ไม่รับเด็กเข้าเรียนกลางคัน ดังนั้นที่นี้จึงเป็นโรงเรียนกศน.ที่แตกต่าง ไม่มีผู้ใหญ่เรียนจริงๆเหมือนโรงเรียนกศน.ทั่วไป
ตั้งอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี แต่ปัจจุบันนี้ทางโรงเรียนได้เปลี่ยนระบบเข้าเป็นโรงเรียนสามัญเต็มตัว ใช้หลักสูตร 6 ปี แล้ว)
- อายุ 16 ปี สอบเอนทรานซ์ติดคณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาลย่านบางมด ตามคำแนะนำของอาจารย์แนะแนว ตามกระแสนิยม
เพื่อความเท่ห์ และเสียดายความรู้ทางสายวิทย์ที่เรียนมา
ขึ้นปี 2 มีแฟนคนแรก แฟนเป็นลูกกำพร้ามีเสี่ยเลี้ยง เลิกกับเสี่ยมาคบกับผม แฟนอยากเรียนต่อ ผมเริ่มทำงานกลางคืนส่งแฟนเรียน
ขึ้นปี 4 ผมไปไม่รอด ติด F หลายตัว ดร็อปไว้หลายตัว ถ้าผมจะเรียนต่อให้จบ ผมจะจบตอนปี 6 ช้ากว่าเพื่อน 2 ปี ต้องทำโปรเจ็คท์
คนเดียว และเกรดคงไม่สวยนัก บวกกับที่บ้านส่งต่อไม่ไหว และผมค้นพบว่าตัวผมเองไม่ได้รักงานทางสายวิชาชีพนี้เลย
สุดท้ายผมเลิกกับแฟน และตัดสินใจลาออก
- อายุ 20 ปี เข้าปี 1 รามคำแหง คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ ครั้งนี้ตัดสินใจเอง เลือกเอง ทำงานเอง ส่งตัวเองเรียน งานกลางคืนเหมือนเดิม
ครับ เพราะยังทำอะไรไม่เป็น
แต่เพราะความแรดของตัวเอง ช่วงนี้ก็ได้แฟนเปลี่ยนแฟนอีก 2 คน อีหรอบเดิมครับ ทุกคนมีปัญหาครอบครัว เลี้ยงตัวเองไม่ได้ ผมก็ทำแต่งาน
หาแต่เงิน การเรียนไม่คืบหน้าครับ ผ่อนผันทหารมาก็หลายปี จนจะผ่อนไม่ได้แล้ว
- อายุ 24 ปี ยังเรียนไม่จบ ตัดสินใจจับใบดำใบแดง แล้วก็แจ็คพ็อต ใบแเดงสิครับ เลิกกับแฟน เป็นทหาร 2 ปี เต็มๆ
- อายุ 26 ปี ปลดประจำการ ตั้งใจจะทำงานไปทำงานไป แต่จะเน้นทำงานเป็นหลัก เรียนไปเรื่อยๆ จบเมื่อไหร่ก็ช่างมัน เพราะคิดเองว่าตัวเอง
แก่เกินเรียนเสียแล้ว ควรทำงานเก็บเงินสร้างตัวดีกว่า จึงสมัครเข้าทำงานที่ผับแห่งหนึ่ง พร้อมกับสมัครเข้าเรียนชั้นปี 1 รามคำแหง คณะมนุษยศาสตร์
สาขาภาษาอังกฤษ สาขาเดิมอีกครั้ง โดยไม่ได้เทียบโอนหน่วยกิต เพราะช่วงที่ติดทหาร ไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อรักษาสถานภาพความเป็นนักศึกษาไว้
สถานภาพนักศึกษาจึงสิ้นสุดลงไปแล้ว และก่อนติดทหารก็เพิ่งสอบผ่านวิชาพื้นฐานไปได้เพียงไม่กี่วิชาเท่านั้น
แต่ความแรดยังไม่จบสิ้น ก็ได้แฟนใหม่ที่ทำงานที่เดียวกันอีกจนได้ เป็นเด็กอายุเพิ่ง 20 ปี ครับ ตัวคนเดียวอีกเหมือนเคย พ่อแม่ไม่ส่ง ทำงานส่งตัวเอง
แฟนผมเรียนราชภัฏแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯครับทคนนี้ดีหน่อย เขายื่นเงื่อนไขให้ผมเรียนให้จบ ไม่งั้นจะเลิกกับผม เราเช่าห้องอยู่ด้วยกัน
ทำงานได้เงินทั้งคู่ ทุกอย่างเหมือนจะราบรื่น
แต่แล้ว..... แฟนผมเกิดมีปัญหาด้านสุขภาพครับ ต้องออกจากงานมาเรียนอย่างเดียว นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมต้องรับผิดชอบคนเดียว
บวกกับบางช่วงมีม็อบการเมือง มีการปฏิวัติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจกลางคืนเป็นอย่างมาก ทำให้ผมต้องดิ้นรนทำงานหนักมาก จนต้องหยุดเรียนไป
ถึง 1 ปีเต็ม
- อายุ 28 ปี การเงินเริ่มคงตัว กลับมาเรียนอีกครั้ง เริ่มเก็บหน่วยกิตได้เป็นกอบเป็นกำ
กลับมาคราวนี้ ผมโตขึ้นแล้วครับ เริ่มคิดได้ ตั้งใจจะเรียนให้จบจริงๆ เพราะมองเห็นแล้วว่างานกลางคืนนั้น ผมตันและก้าวหน้าไปต่อไม่ได้เลย
แต่ชีวิตมันไม่ง่ายครับ ผมกำลังจะเจอกับวิบากกรรมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ !!!
แล้วผมจะมาเล่าต่อครับ ตอนนี้ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ
ขอบคุณที่อ่านครับ
ชีวิตน้ำเน่ากว่า 30ปี กับปริญญาตรีใบแรก และก้าวต่อไปของมือใหม่หัดเดิน?
- อายุ 14 ปี ผมเรียนจบกศน. เทียบเท่าชั้นมัธยม 3 ผมการเรียนดีมาก แต่เห็นแก่ตัว ไม่ทำกิจกรรม เพื่อนน้อย
- อายุ 16 ปี ผมเรียนจบกศน. เทียบเท่าชั้นมัธยม 6 ผลการเรียนตกลงมาก ลดทิฏฐิ เริ่มเล่นกีฬา โดดเรียน มีเพื่อนมากขึ้น เลือกเรียนสายวิทย์คณิต
ตามคำแนะนำของอาจารย์ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกชอบสายภาษามากกว่า
( เป็นโรงเรียนผู้ใหญ่ แต่เป็นโรงเรียนกินนอนและใช้หนังสือเรียนหลักสูตรเดียวกับโรงเรียนสายสามัญทั่วไป โดยเปิดรับเฉพาะเด็กอายุไม่เกิน
15 ปี สอบเข้าเรียนชั้นม.1 ไม่รับเด็กเข้าเรียนกลางคัน ดังนั้นที่นี้จึงเป็นโรงเรียนกศน.ที่แตกต่าง ไม่มีผู้ใหญ่เรียนจริงๆเหมือนโรงเรียนกศน.ทั่วไป
ตั้งอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี แต่ปัจจุบันนี้ทางโรงเรียนได้เปลี่ยนระบบเข้าเป็นโรงเรียนสามัญเต็มตัว ใช้หลักสูตร 6 ปี แล้ว)
- อายุ 16 ปี สอบเอนทรานซ์ติดคณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาลย่านบางมด ตามคำแนะนำของอาจารย์แนะแนว ตามกระแสนิยม
เพื่อความเท่ห์ และเสียดายความรู้ทางสายวิทย์ที่เรียนมา
ขึ้นปี 2 มีแฟนคนแรก แฟนเป็นลูกกำพร้ามีเสี่ยเลี้ยง เลิกกับเสี่ยมาคบกับผม แฟนอยากเรียนต่อ ผมเริ่มทำงานกลางคืนส่งแฟนเรียน
ขึ้นปี 4 ผมไปไม่รอด ติด F หลายตัว ดร็อปไว้หลายตัว ถ้าผมจะเรียนต่อให้จบ ผมจะจบตอนปี 6 ช้ากว่าเพื่อน 2 ปี ต้องทำโปรเจ็คท์
คนเดียว และเกรดคงไม่สวยนัก บวกกับที่บ้านส่งต่อไม่ไหว และผมค้นพบว่าตัวผมเองไม่ได้รักงานทางสายวิชาชีพนี้เลย
สุดท้ายผมเลิกกับแฟน และตัดสินใจลาออก
- อายุ 20 ปี เข้าปี 1 รามคำแหง คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ ครั้งนี้ตัดสินใจเอง เลือกเอง ทำงานเอง ส่งตัวเองเรียน งานกลางคืนเหมือนเดิม
ครับ เพราะยังทำอะไรไม่เป็น
แต่เพราะความแรดของตัวเอง ช่วงนี้ก็ได้แฟนเปลี่ยนแฟนอีก 2 คน อีหรอบเดิมครับ ทุกคนมีปัญหาครอบครัว เลี้ยงตัวเองไม่ได้ ผมก็ทำแต่งาน
หาแต่เงิน การเรียนไม่คืบหน้าครับ ผ่อนผันทหารมาก็หลายปี จนจะผ่อนไม่ได้แล้ว
- อายุ 24 ปี ยังเรียนไม่จบ ตัดสินใจจับใบดำใบแดง แล้วก็แจ็คพ็อต ใบแเดงสิครับ เลิกกับแฟน เป็นทหาร 2 ปี เต็มๆ
- อายุ 26 ปี ปลดประจำการ ตั้งใจจะทำงานไปทำงานไป แต่จะเน้นทำงานเป็นหลัก เรียนไปเรื่อยๆ จบเมื่อไหร่ก็ช่างมัน เพราะคิดเองว่าตัวเอง
แก่เกินเรียนเสียแล้ว ควรทำงานเก็บเงินสร้างตัวดีกว่า จึงสมัครเข้าทำงานที่ผับแห่งหนึ่ง พร้อมกับสมัครเข้าเรียนชั้นปี 1 รามคำแหง คณะมนุษยศาสตร์
สาขาภาษาอังกฤษ สาขาเดิมอีกครั้ง โดยไม่ได้เทียบโอนหน่วยกิต เพราะช่วงที่ติดทหาร ไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อรักษาสถานภาพความเป็นนักศึกษาไว้
สถานภาพนักศึกษาจึงสิ้นสุดลงไปแล้ว และก่อนติดทหารก็เพิ่งสอบผ่านวิชาพื้นฐานไปได้เพียงไม่กี่วิชาเท่านั้น
แต่ความแรดยังไม่จบสิ้น ก็ได้แฟนใหม่ที่ทำงานที่เดียวกันอีกจนได้ เป็นเด็กอายุเพิ่ง 20 ปี ครับ ตัวคนเดียวอีกเหมือนเคย พ่อแม่ไม่ส่ง ทำงานส่งตัวเอง
แฟนผมเรียนราชภัฏแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯครับทคนนี้ดีหน่อย เขายื่นเงื่อนไขให้ผมเรียนให้จบ ไม่งั้นจะเลิกกับผม เราเช่าห้องอยู่ด้วยกัน
ทำงานได้เงินทั้งคู่ ทุกอย่างเหมือนจะราบรื่น
แต่แล้ว..... แฟนผมเกิดมีปัญหาด้านสุขภาพครับ ต้องออกจากงานมาเรียนอย่างเดียว นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมต้องรับผิดชอบคนเดียว
บวกกับบางช่วงมีม็อบการเมือง มีการปฏิวัติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจกลางคืนเป็นอย่างมาก ทำให้ผมต้องดิ้นรนทำงานหนักมาก จนต้องหยุดเรียนไป
ถึง 1 ปีเต็ม
- อายุ 28 ปี การเงินเริ่มคงตัว กลับมาเรียนอีกครั้ง เริ่มเก็บหน่วยกิตได้เป็นกอบเป็นกำ
กลับมาคราวนี้ ผมโตขึ้นแล้วครับ เริ่มคิดได้ ตั้งใจจะเรียนให้จบจริงๆ เพราะมองเห็นแล้วว่างานกลางคืนนั้น ผมตันและก้าวหน้าไปต่อไม่ได้เลย
แต่ชีวิตมันไม่ง่ายครับ ผมกำลังจะเจอกับวิบากกรรมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ !!!
แล้วผมจะมาเล่าต่อครับ ตอนนี้ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ
ขอบคุณที่อ่านครับ